
“เด็กๆเรียนรู้เรื่องความดีงามและคุณธรรมผ่านนิทานและเรื่องเล่าที่เราเล่าให้ฟังไม่ใช่ด้วยหลักการและเหตุผล”
คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงเลย เมื่อเด็กๆ นั่งฟังนิทานที่ผู้ใหญ่เล่า พวกเขาจะตั้งใจจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง จินตนาการนำพาเขาไปสู่โลกใหม่ ดวงจิตเปิดรับความรู้สึกนึกคิดมากมายของตัวละคร ทั้งความโกรธ ความเสียใจ ความอบอุ่น ความเห็นใจ และเรียนรู้แม้กระทั่งแนวคิดที่เป็นนามธรรมอย่างความกล้าหาญ ความยุติธรรม โดยที่ไม่ต้องมีคำเหล่านี้อยู่ในเนื้อเรื่องที่รับฟังด้วยซ้ำ
การเล่านิทานอย่างมีคุณภาพ นอกจากเนื้อเรื่องจะต้องเหมาะสมกับวัยของเด็กแล้ว การเล่าแบบปากเปล่า มีการสบตากันระหว่างผู้เล่ากับเด็ก ๆ จะส่งเสริมให้เด็กสร้างภาพในความคิดของตนเอง ช่วยกระตุ้นจิตสำนึกแห่งความฝันและจินตนาการของเขา และเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับครูหรือพ่อแม่ที่เป็นคนเล่านิทานด้วย
นอกจากนี้ การ “เล่า” นิทานยังเป็นประโยชน์ต่อ “ความตั้งใจ” ของเด็ก การที่เด็กนั่งฟังนิ่ง ๆ โดยไม่ดูหนังสือภาพ เขาจะรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวเมื่อร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหว การฟังเรื่องราวที่ตัวละครต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์ต่อความรู้สึกในชีวิตของเด็ก เมื่อผู้ใหญ่เล่าเรื่องราวให้ฟัง เด็ก ๆ จะรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตร ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของโลกภายนอก
เราควรเล่านิทานด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและเป็นกันเอง การใส่อารมณ์มากเกินไปอาจทำให้เด็กเสียสมาธิได้ เด็กควรฟังเรื่องเล่าแล้วตีความด้วยตัวเอง บางครั้ง อาจใช้ตุ๊กตาหรือหุ่นประกอบเรื่องเล่าได้ แต่การที่เด็กสามารถนั่งฟังได้โดยไม่มีสิ่งรบกวนทางสายตาใด ๆ จะช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลายมากกว่า อาจใช้การจุดเทียนหรือท่องบทกลอนเพื่อสร้างบรรยากาศเงียบสงบและบ่งบอกเวลาเริ่มเล่านิทาน
มีตัวเลือกมากมายในการเล่านิทานให้ลูกฟัง โรงเรียนอนุบาลบางแห่งใช้นิทานกริมม์ที่มีคุณค่ามาก เพราะเป็นเรื่องราวต้นแบบที่สะท้อนถึงสภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ แม้บางคนจะบอกว่าความรุนแรงในนิทานเหล่านี้อาจมากเกินไปสำหรับเด็กเล็ก แต่บางคนก็บอกว่าเด็กไม่ได้รับผลกระทบจากฉากความรุนแรงแบบเดียวกับที่ผู้ใหญ่มอง ไม่ว่าเราจะเลือกเล่านิทานเรื่องใด สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้สึกสบายใจกับเรื่องนั้น ๆ ไม่เช่นนั้นเด็กจะรับรู้ถึงความกังวลของเราได้ และถ้าเราสามารถแต่งนิทานมาเล่าเองได้ก็ยิ่งดี เพราะเราจะสามารถปรับเนื้อเรื่องให้เข้ากับเด็กและปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่ได้
การใช้ภาษาที่วิจิตรงดงามและมีรายละเอียดซับซ้อนในการเล่าเรื่อง ยังช่วยพัฒนาทักษะการพูดและคำศัพท์ของเด็ก การได้ยินคำศัพท์ใหม่ ๆ จะช่วยส่งเสริมให้เด็ก ๆ นำคำเหล่านี้มาใช้ในคำพูด เรื่องราวที่เราเล่าให้ลูก ๆ ฟังจะหล่อหลอมคำพูดและความคิดของพวกเขา ดังนั้นภาษาที่ใช้ในการเล่าเรื่องจึงมีความสำคัญมาก เรื่องราวต่าง ๆ จึงมักมีการเอ่ยซ้ำวลีหรือคำแต่ละคำ ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะด้านภาษาของเขาต่อไป