
"It takes a village to raise a child."
“การเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง ต้องใช้คนทั้งหมู่บ้าน”
เป็นสำนวนโบราณที่สะท้อนความเป็นจริงเกี่ยวกับการเติบโตของเด็ก การที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นมาอย่างสมดุลทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ไม่ได้อาศัยเพียงพ่อแม่ หรือสมาชิกในครอบครัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เเต่เพื่อนบ้าน สังคม สื่อ ครู โรงเรียน และสิ่งล้อมรอบตัวเด็กล้วนมีอิทธิพลต่อพัฒนาการของเด็กทั้งสิ้น พันธกิจของเราจึงให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้ในการเลี้ยงดูเด็ก และการสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในสังคมอย่างยั่งยืน

I Learning Center
Social Enterprise
ความเป็นมา
“I” Learning Center เกิดจากกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองโรงเรียนไตรพัฒน์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนวอลดอร์ฟ (Waldorf) ตามแนวคิดด้านมนุษยปรัชญา (Anthroposophy) ของ Rudorf Steiner นักปรัชญาชาวออสเตรีย ที่ศึกษาธรรมชาติความเป็นมนุษย์ในสามมิติ คือ กาย (Physical) ใจ (Soul) และจิตวิญญาณ (Spirit) เป็นแนวคิดที่ช่วยส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องพัฒนาการตามธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ ที่ทำให้พ่อแม่ ครู และผู้ดูแลเด็ก สามารถออกแบบ และวางแผนกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะทำกับเด็กได้เหมาะสมตามวัยที่จะทำให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างสมดุล
จากการที่กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมกับโรงเรียนไตรพัฒน์ในการทำงานก่อร่างสร้างชุมชนไตรพัฒน์ ที่สมาชิกต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกันในหลาย ๆ ด้าน เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่โอบอุ้มและเกื้อหนุนการเติบโตของเด็ก และการได้เห็นเด็กเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็ง ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในแนวการเลี้ยงดูเด็ก การให้การศึกษา และแนวทางการพัฒนาภายในของสมาชิกในชุมชนตามแนวทางมนุษยปรัชญา “I” Learning Center จึงเห็นความสำคัญในการเผยแพร่องค์ความรู้ และแนวทางการศึกษาที่สอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์สู่สังคมในวงกว้าง โดยหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างสังคม และรากฐานการศึกษาที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต เพราะเด็กคืออนาคตของโลก โลกนี้จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไร ย่อมขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะเลี้ยงดูเด็ก ๆ และการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้พวกเขาได้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ และได้จัดจัดตั้ง ”I” Learning Center ในปี 2568
ดังนั้น “I” Learning Center จึงค่อย ๆ ขยายกิจกรรมจากการทำงานภายในชุมชนเล็ก ๆ ออกไปสู่สังคมที่กว้างขึ้น จากกลุ่มกิจการเพื่อสังคม สู่การจัดตั้งองค์กรที่ประกอบกิจการเพื่อสังคม 100% ในรูปแบบบริษัท
พันธกิจของ “I” Learning Center
การเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ยั่งยืน (Lifelong Learning Center) ของชุมชน ของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก และเด็ก ๆ
วัตถุประสงค์
1. ส่งเสริมการเลี้ยงดูและการศึกษาแนวทางธรรมชาติ
ส่งเสริมการเลี้ยงดูและการศึกษาแนวทางธรรมชาติที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กตามช่วงวัยโดยเฉพาะตามแนวทางการศึกษาวอลดอร์ฟโดยการเผยแพร่ให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็กเกี่ยวกับพัฒนาการของมนุษย์ในแต่ละช่วงวัยตามแนวทางมนุษยปรัชญารวมถึงวิธีการดูแลเด็กที่จะส่งเสริมให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างสมดุลค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองเคารพผู้อื่นและรักธรรมชาติ
2. เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต
สร้างพื้นที่ และสร้างโอกาสในการเรียนรู้ให้แก่เด็ก และผู้ใหญ่ทุกวัย โดยการจัดพื้นที่ให้เด็กมีโอกาสได้เล่นอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ ให้ผู้ใหญ่ทั้งในชุมชนและนอกชุมชนได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์ในทุก ๆ ด้าน (ศิลปะ ดนตรี หัตถกรรม งานไม้ เป็นต้น)
3. สร้างเครือข่ายพ่อแม่ที่สนใจแนวทางการศึกษาวอลดอร์ฟอย่างยั่งยืน
พัฒนาเครือข่ายพ่อแม่ที่มีความสนใจแนวทางการศึกษาแบบวอลดอร์ฟ เล่น เรียนรู้ตามธรรมชาติ โดยการเชื่อมโยงกับชุมชนอื่น ๆ ที่มีแนวคิดเดียวกันทั้งในและต่างประเทศ เพื่อความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
4. สร้างรายได้ให้กับสมาชิกในชุมชน
สนับสนุนให้สมาชิกที่เข้ามาทำงานให้กับ “ไอ” เลิร์นนิ่ง เซ็นเตอร์ มีรายได้ตามความเหมาะสม สร้างทีมงาน กำหนดค่าตอบแทนที่เหมาะสม และจัดหาทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานของทีมงานทุกฝ่าย จัดการประชุม อบรม เพื่อเพิ่มศักยภาพ และความรู้ความเข้าใจที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของวิสาหกิจ การเข้าไปเป็นหุ้นส่วนในโครงการต่าง ๆ เพื่อให้สมาชิกทุกคนมีโอกาสทำงานเพื่อสังคม และในขณะเดียวกัน ก็มีรายได้ตามความหมาะสม
5. สนับสนุนชุมชนอื่นๆ
ให้การช่วยเหลือ และสนับสนุนชุมชนอื่น ๆ ที่สนใจแนวทางการเรียนรู้ของวิสาหกิจ
ทุนของวิสาหกิจ
ระดมทุนจาก
1) กลุ่มผู้ปกครองปัจจุบัน ที่ต้องการมีส่วนช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษา
2) กลุ่มผู้ปกครองและศิษย์เก่า ที่ต้องการมีส่วนช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษา
3) บุคคลทั่วไป ที่ต้องการสนับสนุนกิจการที่สร้างสรรค์สังคม
2. ระดมทุนจากภาครัฐและเอกชนต่างๆที่มีโครงการส่งเสริมสนับสนุนวิสหากิจเพื่อสังคม
Parent Space
บทความล่าสุด
Wonderlife Playground #2
พ่อแม่มา "เรียนรู้" พาลูกมา "เล่น"
Storytelling นิทานเพื่อวัยช่างฝัน
"นิทาน" สำคัญต่อพัฒนาการของลูกอย่างไร?
เชิญชวนมาหาคำตอบผ่าน “การเสวนาและกิจกรรมแสนสนุก” เพื่อคุณพ่อคุณแม่จะได้ “รู้จักตระหนักใจ” ในประโยชน์ของนิทานที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการ “ส่งเสริม 12 Senses” เพื่อการเติบโตเป็นมนุษย์ที่ “งดงามตามวัย” ของลูก
- กิจกรรมผู้ใหญ่
- ฟังเสวนา “นิทานเพื่อวัยช่างฝัน” โดยแม่อุ้ย ผู้ก่อตั้งอนุบาลบ้านรัก และแม่จาว จาก โรงเรียนไตรพัฒน์และฟ้ากว้างเนอสเซอรี่วอลดอร์ฟเชียงใหม่
- workshop แต่งนิทานเพื่อลูก โดยครูจิ้ม นักศิลปะบำบัดตามแนวทางมนุษยปรัชญา
- กิจกรรมเด็กเล็ก
- กิจกรรม นิทานเคลื่อนไหว โดยครูต่อ โรงเรียนไตรพัฒน์
- กิจกรรมวงกลม งานคราฟท์ และศิลปะ โดยครูจูน จาก Ban Kru June Early Childhood Waldolf Inspired
- กิจกรรมเด็กประถมต้น
- กิจกรรม Wonder Journey: The Miracle of Transformation โดยโครงการ Seed of Wisdom
- กิจกรรม Creative Drama โดยครูกล้วย
วันอาทิตย์ที่ 22 มิ.ย. 2568 เวลา 8:30- 15:30
ทำไมถึงต้องเป็นบริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคม?
1. เป็นบริษัทที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมาย มีวัตถุประสงค์เพื่อสังคมเป็นเป้าหมายหลักของกิจการ และได้รับการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 และสามารถทำธุรกรรมกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างเป็นเอกเทศ
2. สอดคล้องกับความตั้งใจของคณะทำงานที่ต้องการทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม
3. การทำงานอย่างมีภาคี และเครือข่าย โดยทำงานเชื่อมโยงกับวิสาหกิจเพื่อสังคมอื่น ๆ
4. สิทธิประโยชน์ทางภาษีของวิสาหกิจเพื่อสังคมประเภทไม่แบ่งปันกำไรได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตั้งแต่วันที่จัดตั้ง
5. สิทธิประโยชน์ของผู้ลงทุน (บุคคลธรรมดา)
สามารถหักลดหย่อนเงินลงทุนในหุ้นหรือการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการจัดตั้งหรือเพื่อการเพิ่มทุนได้ไม่เกินกรณีละ 100,000บาท สำหรับปีภาษี
(นิติบุคคล)
หักรายจ่ายเงินลงทุนในหุ้นหรือการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการจัดตั้งหรือการเพิ่มทุนได้เท่าที่จ่ายจริง
ติดต่อเรา
For collaboration, mail me
admin@ilearning.center
